เพาะกายไทย ปลื้มความสำเร็จของนักกีฬาไทยจัดเตรียมต่อยอดไปสู่ การเป็นเจ้าภาพเพาะกายชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค.ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันครบ 43 คน จาก 42 รุ่น ตั้งเป้าสู่ความเสร็จเช่นเดียวกับครั้งก่อนหน้านี้
พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา
วุฒิสภา คนที่สาม และประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา เป็นประธานในงานของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ที่จัดงานเชิดชูเกียรติและก็แสดงความยินดีให้แก่นักกีฬาเพาะกายและก็ฟิตเนสทีมชาติไทยที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2564 จำนวน 47 คน ที่ ห้องสุพรรณหงส์1 ชั้น 3 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ รามคำแหง บางกะปิ กทม.
ร่วมด้วย นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย, นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), นายวิษณุ ไล่ชะพิษ อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย, จันทร พิมพ์สกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), นายอรรถ นานา นายกสมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย, ดร.ชัย นิมากร ประธานกรรมการอำนวยการและกรรมการผู้จัดการบริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย
เปิดเปิดเผยว่า จากความสำเร็จของนักกีฬาไทยในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 53 ที่เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย และก็ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 11 ที่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2019 ทำให้นักกีฬาเพาะกายและก็ฟิตเนสทีมชาติไทยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2564 สำหรับสายกีฬาโดยเฉพาะ ถือเป็นความเสร็จของนักกีฬาในปีที่ผ่านมาจนถึงในปีนี้ ได้ฉลองไปพร้อมกันรวมถึงในโอกาสครบรอบ 58 ปี ของสมาคมฯ ในปีนี้อีกด้วย”
“สำหรับในปีนี้ นักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค.ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งในส่วนของนักกีฬาไทย เราจะส่งนักกึฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 43 คน เพื่อส่งให้ครบ 42 รุ่น ซึ่งในตอนนี้ เราได้นักกีฬาของไทยที่จะเข้าแข่งขัน มี 37 คน เราจะคัดนักกีฬาเพิ่มจากรายการ “ปักษ์ใต้คลาสสิค” ในวันที่ 5-6 พ.ย.ที่ จ.สุราษฎร์ เพิ่มเติม เราหวังว่าเราจะประสบความเสร็จอีกรอบหนึ่ง เช่นเดียวกับในชิงแชมป์โลก ปีที่ผ่านมา ซึ่งนักกีฬาไทยค่อนข้างประสบความเสร็จ ได้แชมป์โลกในหลายรุ่น”
“ความพร้อมของการเป็นเจ้าภาพจัดรายการนี้ นั้น ทางสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก ได้มาดูความพร้อมทุกด้าน ตอนนี้ประเทศที่สมัครเข้าแข่งขันเป็นจำนวน 28 ประเทศ คาดว่านักกีฬา คงจะเกิน 500 คน และก็คงจะมีผู้ติดตามอีกด้วย เราจัดเตรียมโรงแรมไว้รองรับนักกีฬาและก็ เจ้าหน้าที่ รวม 2 โรงแรม เป็นจำนวนกว่า 400 ห้อง”
“ชิงแชมป์โลก รายการนี้ เป็นอีกรอบหนึ่งหลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่เราเป็นเจ้าภาพที่จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้ เราลงมาภาคใต้ ไปดูไฮไท์และก็สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งภูเก็ต เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวดูสถานที่สำคัญ ซึ่งเราจัดเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าทีราและก็ผู้ติดตาม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการทำให้อุตสาหกรรมการกีฬาและก็ท่องเที่ยวได้มีการบูรณากรและก็ประสบความเสร็จอีกรอบ”